ศิริสโตร์ มาจากการรวมกันระหว่างคำว่า "ศิริ" + "สโตร์"
"ศิริ" มาจากคำนำหน้าของนามสกุล "ศิริวัฒนากร"
และ ศิริ ก็ยังมีความหมาย "ดี" และ "เป็นศิริมงคล"
"สโตร์" มาจากคำภาษาอังกฤษ "Store" ซึ่งหมายถึง 'ร้านค้า"
"ศิริสโตร์" จึงหมายถึง "ร้านค้าที่ดี มีแต่ของศิริมงคล"
มีลูกค้าหลายท่านถามว่า ไม่เปลี่ยนชื่อเกี่ยวกับพระเครื่อง?
เช่น "ศิรสโตร์พระเครื่อง" หรือ "พระเครื่องศิริสโตร์"
อันที่จริงแล้ว ชื่อศิริสโตร์นั้นเป็นมงคล ติดปาก และเป็นที่จดจำ
ของลูกค้ามาอย่างยาวนาน จึงไม่มีเหตุผลที่จะต้องเปลี่ยนชื่ออีก
เนื่องจากชื่อนี้มีมาตั้งแต่สมัยยุคบรรพบุรุษ ยุคอากงและอาม่า
จากตึกแถวสองชั้น ตั้งอยู่บนเลขที่ 2 สามแยกหมอมี
ติดถนนพระราม 4 (หลังธนาคาร UOB สาขาสามแยก)
ผู้คนที่อยู่บริเวณนี้มานานจะรู้จักร้านนี้ในนามหมอจีน
เฮ้ง ฮ่วยอิม (หมอแมะ) ซึ่งก็คือ "อากง" พ่อของเฮียตี๋
อากงเป็นหมอจีนที่เก่งและดุ แต่ใจดี ชอบช่วยเหลือคน
แม้ผู้ป่วยไม่มีเงินมารักษา อากงก็ช่วยเหลืออย่างเต็มใจ
โดยเฉพาะยารักษาโรคไตนั้น สูตรยาของอากงยังใช้ได้ดี
ปัจจุบันทำเป็นเม็ดลูกกลอน ทานแล้วปัสสาวะใสดีมาก
อากงได้จากไปตั้งแต่เฮียตี๋ยังวัยรุ่น "อาม่า" แม่ของเฮียตี๋
จึงได้เปลี่ยนจากร้านหมอจีนเป็นร้านขายของชำ (โชว์ห่วย)
ธุรกิจนี้ไปได้ดี เพราะสมัยก่อนยังไม่มีร้านสะดวกซื้อ 24 ชม.
ประกอบกับหน้าร้านมีอู่รถเมล์สาย 25 ผู้คนจึงพลุกพล่าน
เมื่อ "เฮียตี๋" โตขึ้น ได้มีอาชีพเป็นเซลส์ขายฟิล์มเอ็กซเรย์
ให้โรงพยาบาล จึงต้องเดินทางไปทั่วประเทศ และจุดนี้เอง
ทำให้เฮียตี๋ได้เริ่มสะสมวัตถุมงคลจากวัดต่างๆ ที่ได้พบเจอ
ได้เห็นพระดีๆ ถูกใจ ก็เช่าเก็บไว้จนมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ
เฮียตี๋จึงเริ่มส่งพระเข้าประกวด และได้รางวัลที่ 1 มากมาย
สามารถตั้งเป็นตู้พระเล็กๆ ในร้านของชำ ให้ "ซ้อลาวัลย์"
เป็นผู้บริหารหน้าร้านศิริสโตร์ ควบคู่กับร้านขายของชำ
จึงเปิด "ศูนย์พระเครื่อง" เพื่อรับจองพระใหม่ทั่วประเทศ
ซ้อลาวัลย์ เป็นคนขยันและมีอัธยาศัยดี จึงมีลูกค้ามากมาย
บริหารให้ศิริสโตร์ก้าวสู่ระดับ "ศูนย์ใหญ่" และเป็นที่ยอมรับ
ของศูนย์พระเครื่องอื่นๆ ถูกยกให้เป็น "พี่ใหญ่" ในยุคนั้น
เมื่อธุรกิจพระเครื่องเจริญุมากกว่าร้านของชำหลายเท่าตัว
ผลจากความซื่อสัตย์และจริงใจ ของทั้งเฮียตี๋และซ้อลาวัลย์
จึงได้ตัดสินใจเปลี่ยนร้านขายของชำ เป็นศูนย์พระเครื่อง
เพียงอย่างเดียว หรือ "ชมรมพระเครื่องศิริสโตร์"
โดยยังใช้ชื่อ "ศิริสโตร์" ดังเดิมมิได้เปลี่ยนแปลง
จากอดีตจนถึงปัจจุบัน "ศิริสโตร์" ยังคงมาตรฐานในการ
บริการอย่างดีเยี่ยม มีพระเครื่อง พระบูชา และวัตถุมงคล
ให้เช่าบูชาในราคามิตรภาพ และจริงใจต่อลูกค้าเสมอมา
จวบจนทุกวันนี้ ศิริสโตร์ ได้ดำเนินธุรกิจศูนย์พระเครื่อง
โดยเฮียตี๋ และซ้อลาวัลย์ บริหารงานเป็นเวลากว่า 50 ปี
และได้ลูกชายคนกลาง หรือ "บิ๊ก ศิริสโตร์" สานต่อธุรกิจ
ขยายฐานลูกค้าสู่ระดับนานาชาติ เน้นกลุ่มชาวสิงคโปร์
มาเลเซีย ฮ่องกง ไต้หวัน ฯลฯ และบริการส่งวัตถุมงคล
พระบูชาไปทั่วโลก ตลอดจนให้คำปรึกษาด้านการส่งออก
พระพุทธรูปไปต่างประเทศ โดยขออนุญาตกรมศิลปากร
ศิริสโตร์ ขอกราบขอบพระคุณลูกค้าจากทุกมุมโลก ที่ไว้ใจ
และใช้บริการมาอย่างยาวนาน โดยให้คำมั่นสัญญาจะรักษา
มาตรฐาน และความเป็นมืออาชีพ ตลอดจนพัฒนาบริการ
ให้ดียิ่งๆ ขึ้น เพื่อเป็น "ศูนย์พระเครื่องอันดับหนึ่งในใจ"
ของลูกค้าทุกท่านตลอดไป....
ผมได้เรียนรู้ประสบการณ์พระเครื่องจากป๊าม๊า ตั้งแต่วัยเด็ก
คลุกคลีวงการพระเครื่อง จับกล้องส่องพระเมื่ออายุ 15 ปี
และต่อยอดธุรกิจนี้เป็นรุ่นที่ 2 หลังจบการศึกษาปริญญาโท
หลักสูตรนานาชาติด้านการตลาด, ปริญญาตรีเศรษฐศาตร์
จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
โดยมีปณิธานอันแน่วแน่ มุ้งเน้นเพื่อพัฒนา
"ศิริสโตร์" ก้าวสู่ศูนย์พระเครื่องมาตรฐานสูงสุด
เน้นประสบการณ์ในการบริการอันอบอุ่น และรอยยิ้ม
เพื่อต้อนรับลูกค้าระดับนานาชาติ จากทุกมุมโลก
ที่สนใจสะสมวัตถมุงคล พระบูชา และเครื่องราง
โดยยึดหลักการ บริการ 3 ใจ คือ
"จริงใจ ประทับใจ สบายใจ"
บิ๊ก ศิริสโตร์
(พสิษฐ์ ศิริวัฒนากร)