เหรียญหล่อรูปไข่หลวงปู่ทวดขอบบัวรอบ หลังช้างเอราวัณ อุดกริ่งมวลสาร เงินลงยาสีน้ำเงิน

เหรียญหล่อรูปไข่หลวงปู่ทวดขอบบัวรอบ (รุ่นแรก) หลังช้างเอราวัณ อุดกริ่งมวลสาร เนื้อทองระฆัง สูง 3.5 ซม. (เงินลงยาสีน้ำเงิน)

ออกแบบโดยอาจารย์ธานี ชินชูศักดิ์ (จิด.ตระ.ธานี) ศิลปินฉายา “จตุรงคธาตุ” ที่มีลายเส้นเคลื่อนไหวดุจมีชีวิตจึงเป็นพระหลวงปู่ทวดที่ลงตัวทั้งพุทธศิลป์และพุทธคุณ งานหล่อประกอบแยกชิ้นคุณภาพจิวเวลรี่ชั้นสูงทุกองค์ อุดด้วยกริ่งมวลสารที่ได้รับบริจาคพระหลวงปู่ทวดกว่า 70 รุ่นนำมาหลอมรวมเป็นชนวนศักดิ์สิทธิ์จึงเรียกว่า "ชนวนรวมใจลูกหลวงปู่ทวด" ประกอบพิธีทั้งสิ้น 8 วาระรวมถึงสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เกี่ยวข้องกับหลวงปู่ทวด พิธีวาระที่ 1 วันที่ 17 พฤษภาคม 2556 วัดแคราชานุวาส (วัดที่หลวงปู่ทวดเคยมาพำนัก) พระนครศรีอยุธยา เจ้าอาวาสเมตตามอบมวลสารอิฐกุฏิเดิมหลวงปู่ทวด และเหรียญหลวงปู่ทวดของวัด พิธีวาระที่ 2 วันที่ 14 มิถุนายน 2556 พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ (ขอพรองค์ช้างเอราวัณสามเศียร) สมุทรปราการ ขออนุญาตนำช้างเอราวัณสามเศียรประดิษฐานหลังเหรียญหล่อ ได้พบพระโพธิสัตว์กวนอิมประดิษฐานอยู่ด้วยจึงได้นำเหรียญพระโพธิสัตว์กวนอิม-ช้างเอราวัณสามเศียรกลับไปเป็นมวลสาร พิธีวาระที่ 3 วันที่ 14 มิถุนายน 2556 พระมหาจักรพรรดิโพธิสัตว์กวนอิม (มูลนิธิพระมหามงคลพุทธนิมิตอวโลกิเตศวร) พระนครศรีอยุธยา ขออนุญาตนำพระนามของท่านประดิษฐานด้านหลังเหรียญหล่อทุกองค์ พิธีวาระที่ 4 วันที่ 29 เมษายน และ 14 มิถุนายน 2556 บริเวณเดิมวัดลุมพลีนาวาส (วัดที่หลวงปู่ทวดศึกษาธรรมะ) พระนครศรีอยุธยา ครั้งแรกเกิดลมพัดแรงหลังปักธูปอธิษฐานจิตขอความสำเร็จ เสมือนหลวงปู่ทวดได้รับรู้ ครั้งที่สองเกิดกลุ่มก้อนเมฆประหลาดเหนือบริเวณพิธีคล้ายรูปช้างเอราวัณสามเศียร พิธีวาระที่ 5 วันที่ 14 มิถุนายน 2556 สถูปหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ ปัตตานี ก่อนวันพิธีฝนตกต่อเนื่องทั้งอาทิตย์ แต่เมื่อเริ่มพิธีฝนหยุดตกจวบจนเสร็จสิ้นพิธีแล้วจึงมีฝนพรำเล็กน้อยเสมือนโปรยน้ำมนต์จากฟากฟ้า พิธีวาระที่ 6 วันที่ 22 มิถุนายน 2556 อ.พิชิต ศรีแจ้งรุ่ง (อ.ต๊ะ) บวงสรวงเบิกฤกษ์ จัดพิธีบูชาหลวงปู่ทวด พระพิฆเนศวร เจ้าที่ ชุมนุมเทวดา ทำพิธีกรรมตามตำราโบราณ เพื่อขอความสำเร็จ เป่าแตรสังข์เอาฤกษ์เอาชัย และหล่อเป็นปฐมฤกษ์หลังเสร็จสิ้นพิธี

พิธีวาระที่ 7 วันที่ 22 สิงหาคม 2556 ณ มูลนิธิพระมหามงคลพุทธมิมิตฯ พระเถราจารย์ผู้ทรงคุณวุฒินั่งปรกรวมทั้งสิ้น 7 รูป

• หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติการาม ประธานจุดเทียนชัย
• หลวงพ่ออุดม วัดพิชัยสงคราม อยุธยาฯ
• พระญาณไตรโลก วัดกษัตราธิราช อยุธยาฯ
• หลวงพ่อแม้น วัดหน้าต่างนอก อยุธยาฯ
• หลวงพ่ออุดม วัดพิชัยสงคราม อยุธยาฯ
• อาจารย์ติ๋ว วัดมณีชลขัณฑ์ ลพบุรี
• พระอาจารย์ศิริชัย (อ.บ๊ะ) วัดโพธิ์ลังกา สิงห์บุรี

พิธีวาระที่ 8 วันที่ 20 กันยายน 2556 ณ บริเวณเดิมวัดลุมพลีนาวาส พระเถราจารย์ผู้ทรงคุณวุฒินั่งปรกรวมทั้งสิ้น 3 รูป

• หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม จ.อยุธยาฯ
• พระครูโกศลธรรมโสภิต (อ.อ๊อด) วัดหน้าพระเมรุฯ อยุธยาฯ
• พระอาจารย์ศิริชัย (อ.บ๊ะ) วัดโพธิ์ลังกา สิงห์บุรี

และพระเกจิรูปที่ 4 ซึ่งหลายๆ ท่านรู้สึกได้ว่าท่านเสด็จมา คือ หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ นั่นเอง แม้วันพิธีจะมีพายุเข้าฝนตกต่อเนื่องไม่หยุดเกือบ 2 วันแต่น่าอัศจรรย์ที่ก่อนฤกษ์พิธีเพียง 10 นาทีฝนหยุดตก ฟ้าเปิดให้ประกอบพิธีพุทธาภิเษกจนเสร็จสิ้นร่วม 1 ชั่วโมง เมื่อเก็บปารัมพิธีเป็นที่เรียบร้อยก่อนออกจากวัดลุมพลีฝนจึงตกต่อเนื่องอีกครั้ง จัดสร้างทั้งพระบูชาขนาดเล็กสูง 7 ซม.ฐานบัว 4 ชั้นบนฐานไม้สักอย่างดี, รูปหล่อลอยองค์ขนาดกลางและจิ๋ว, เหรียญปั๊มหลังพระยันต์จตุพุทธา และเหรียญหล่อรูปไข่ประกอบ 4 ชิ้นที่ด้านหน้ามีลายกนกเปลวคู่กับช้างซึ่งเป็นสัตว์มงคลของหลวงปู่ทวด ขอบเหรียญมีกลีบบัวล้อมรอบอย่างงดงาม ส่วนด้านหลังเหรียญเป็นช้างเอราวัณที่เดินก้าวไปข้างหน้าหมายถึงความเจริญรุ่งเรือง มีมงกุฎยันต์พุทธซ้อนที่ดีเลิศด้านโภคทรัพย์ให้รับทรัพย์ตลอดเวลา ทุกองค์รับพระผงหลังยันต์จตุพุทธาพร้อมหนังสือรายละเอียดการจัดสร้างความหนา 40 หน้า รายได้นำไปสร้างเจ้าแม่กวนอิมปาง 4 หน้าหรือ “พระมหาจักรพรรดิโพธิสัตว์กวนอิม” เนื้อหินหยกขาวองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ณ อยุธยาฯ

• สร้างเพียง 199 องค์
• มีโค้ดและหมายเลขกำกับทุกองค์
• ทุกองค์มีการ์ดประจำองค์พระที่มีระบบ QR Code บรรจุข้อมูลประจำพระแต่ละองค์ไว้อย่างครบถ้วนเป็นภาษาอังกฤษมาตรฐานสากลครั้งแรกของโลก